เลือกหุ้นยังไงดี? ตอนที่2
เลือกหุ้นยังไงดี? ตอนที่2
อย่างที่เคยเกริ่นไปตอนก่อนถึงเรื่องการเลือกหุ้นนั้น การใช้ตัวเลขต่างๆเป็นการเลือกนั้นหรือการใช้ quantity ในการวัดผลนั้น สามารถทำได้กับหลายตัวเลขครับ เช่น P/E, D/E, อัตราเงินปันผล, การเติบโตของรายได้และกำไร, ROE, ROA, Profit margin. จริงๆยังมีตัวเลขอื่นๆที่สำคัญอีกเยอะนะครับแต่ผมหยิบตัวสำคัญๆ มาให้เป็นตัวย่างกันก่อน
อย่าง P/E นี่ใช้เป็น indicator แบบง่ายๆได้ก่อนเลยว่าหุ้นตัวไหนถูกหรือแพง แต่อาจใช้ไม่ได้ทุกกรณีนะครับ ขึ้นอยู่กับว่าหุ้นตัวนั้นมีลักษณะแบบไหน เช่นหากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่มั่นคงหรือรายได้ที่มั่นคงแล้ว การดู P/E จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นแต่หากเป็นหุ้นที่มี season effect หรือหุ้น turnaround ก็อาจจะต้องดู P/E ที่แตกต่างออกไป ในกรณีนี้ผมขอพูดถึงหุ้นที่มีลักษณะรายได้และการเติบโตที่มั่นคงนะครับ ถ้าเป็นผมเองสำหรับ P/E ผมก็จะเลือกที่ต่ำครับ หากรายได้ไม่ลดลงหรือว่ายังมีการเติบโตนั้นอาจจะพอให้ P/E ได้มากหน่อยและหากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตมาก การให้ P/E ที่สูงขึ้นก็จะพอเป็นเรื่องที่จะทำได้ครับ ส่วนตัวผมให้ P/E ประมาณ 10 -20 เท่าส่วนหากว่าเกินกว่านั้นจะโอเคมั้ยต้องดูอย่างอื่นควบไปด้วย แต่ก็ต้องทำใจว่าหากเลือกหุ้นที่ P/E สูงก็คล้ายกับว่าเราซื้อของที่ราคาแพง แม้อาจจะดี
D/E หรือหนี้สินต่อทุน ยิ่งน้อยยิ่งดี (ยกเว้นบางธุรกิจที่เน้นต้องมีเงินกู้เยอะๆเช่น ธนาคารหรือ Leasing) แต่ถ้าเป็นธุรกิจอื่นก็มี D/E น้อยๆดีกว่าโดยส่วนตัวคือน้อยกว่า 1 เพราะว่าการมีหนี้น้อยๆกว่านั้นเป็นเรื่องที่ดีไม่ว่าจะเป็นการเสียดอกเบี้ยที่น้อย และไม่ต้องพะวงกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะกินกำไรไปเรื่อยๆ หรือว่าจะเป็นโอกาสการกู้เงินในอนาคตหากต้องการขยายกิจการ จะมีทางเลือกมากกว่าบริษัทที่มี D/E สูงๆจะทำการกู้ยากกว่า
การเติบโตของรายได้หรือกำไรนั้น ส่วนใหญ่ผมจะดูควบคู่กันให้ไปในทิศทางเดียวกัน รายได้โต กำไรโต และชอบบริษัทที่เติบโตแบบมั่นคงมากกว่าการต้องคาดเดาการเติบโตที่ไม่แน่นอนในอนาคตครับ หากบริษัทไหนรายได้โต แต่กำไรหดก็อาจจะต้องระวังกันนิดนึงควรเข้าไปดูนิดนึงว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมรายได้เยอะขึ้นกำไรกลับน้อยลง หรือหากรายได้ลดลงแต่กำไรเพิ่มก็ต้องเข้าไปดูเช่นกันว่าบริษัททำไมถึงกำไรเพิ่มทั้งที่รายได้น้อยลง
ROE/ROA ควบกันเลยละกัน เป็นการดู return เมื่อเทียบกับทุนหรือสินทรัพย์ที่มี ทั้งสองตัวนี้ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ก็ต้องดูด้วยนะครับว่าบริษัทนี้ใช้ทุนหรือสินทรัพย์เป็นหลัก หรือว่าใช้หนี้สินในการดำเนินกิจการเป็นหลัก ตัวเลขนี้ก็อาจจะเพี้ยนได้จากตัวหนี้สินที่เยอะ หรือว่าเป็นธุรกิจที่ไมได้ใช้สินทรัพย์เท่าไร หากสอดคล้องกับ D/E ที่น้อยแล้วการดู ROE จะมีประโยชน์และตัวเลขที่น่าสนใจควรจะอยู่ที่ 10 -15 ขึ้นไป แต่ก็แล้วแต่เหตุการณ์ด้วยอีกทีนะครับ เอาเป็นว่าเยอะไว้ก่อนก็ดีครับ
Profit margin หรืออัตราส่วนกำไร ง่ายๆเลยก็คือ ขายเท่าไร เป็นกำไรเท่าไร เช่นบางบริษัทรายได้เยอะมากแต่กำไรจิ้ดเดียว ขายได้ 100 กำไร 2 แปลว่าต้องเน้นยอดขายให้เยอะๆมากๆ และต้องหมุนสินค้าให้เก่งไม่ให้ของเกิดค้างสต็อคนานและยิ่งเป็นสินค้าที่เน่าเสียได้หรือว่าเป็นสินค้าที่เทคโนโลยีอาจจะยิ่งทำให้ลำบากหากหมุนสินค้าได้ไม่เร็วพอ ดังนั้นการดูรายได้และ profit margin ควบกันไปจะเป็นเรื่องที่ดีครับ และคิดว่าในกรณีปกติการได้ profit margin สูงๆและมั่นคงดีกว่าครับ
อันนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆในการใช้ตัวเลขมาใช้ในการเลือกหุ้น แต่ถามว่าเท่าไรดีอันนี้ตอบยากครับต้องเจาะลึกเป็นบริษัทๆเป็นอุตสาหกรรมๆไปครับ ไว้มาต่อตอนที่ 3 กันแล้วจะสรุปรวมให้อีกทีนะครับ ส่วนใครพลาดตอนแรกก็ตามลิงค์นี้นะครับ https://www.thaistockfocus.com/2015/05/stockselection.html
————————————————————————————————————
ฝากประชาสัมพันธ์ไว้ด้วยครับ สำหรับคนที่ติดต่อมาต้องการเปิดพอร์ตกับโนมูระก็สามารถติดต่อมาได้ที่ 089 103 2176 นะครับ จะส่งต่อเรื่องให้อีกทีตอนแรกไม่ได้แปะเบอร์เอาไว้ ก็หากสนใจก็ลองติดต่อดูได้นะครับ