Market Sentiment


Market Sentiment

เรื่องสภาพตลาดที่เราจะพูดถึงนี้ เราว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีผลมากต่อจิตวิทยาการลงทุนนะครับ

เพื่อน ๆ เนื่องจากว่า ในภาวะที่ตลาดซบเซา หรือ เรียกกันว่าตลาดหมี มักจะทำให้นักลงทุนไม่ค่อยกล้าซื้อหุ้นกันเท่าไรนัก แต่ในสภาพตลาดที่มีการซื้อขายคึกคัก และดัชนีราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปมาก ๆ หรือภาวะที่เป็นตลาดกระทิง โดยมากแล้วนักลงทุนจะเข้ามาซื้อหุ้นกันมาก ด้วยความเชื่อมั่นว่าหุ้นจะขึ้นไปอีก และพวกเขาจะทำกำไรกันได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระตุ้นจากบรรยากาศในการ Trade ทำให้เกิดความสนุกสนานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามถ้ามองอย่างมีเหตุผลแล้ว พวกเราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าการค้าขายโดยทั่วไปนั้น คนที่จะทำกำไร
ได้มาก ๆ จะต้องซื้อมาถูก และขายไปแพง ดังนั้นการที่เราจะเข้าไปซื้อหุ้นตอนที่ภาวะตลาดเป็นขาขึ้น หรือว่าตลาดกระทิงนั้น ก็ดูว่าจะไม่ค่อยมีเหตุผลซักเท่าไร เนื่องจากถึงแม้เราจะซื้อมาแพง และโชคดีขายไปได้แพงกว่าก็ไม่ได้ทำให้เรากำไรได้มากสักเท่าไร เราเองมักจะถามเพื่อน ๆ อยู่เสมอว่า กำไรแค่นี้ทำให้เพื่อนรวยขึ้นหรือเปล่านั่นหมายความว่า ถ้ากำไรนิดหน่อยก็ต้องขายแล้ว เนื่องจากก็รู้อยู่ว่าหุ้นที่ซื้อมานั้นมันแพง เดี๋ยวกลัวราคามันจะตกลงมา แสดงว่าในขณะที่ซื้อมานั้น เพื่อน ๆ ก็รู้ใช่มั๊ยว่ามันมีความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเราซื้อหุ้นในช่วงที่เป็นตลาดหมี เราก็จะสามารถเลือกซื้อหุ้นราคาถูก ๆ ที่มีอนาคตดี ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้มาก ๆและเนื่องจากเราซื้อมาในราคาที่ไม่แพง เราจึงถึงได้อย่างสบาย โดยที่มีความเชื่อมั่นว่า หุ้นที่เราถืออยู่มีโอกาสที่ราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้นไปมากกว่าที่ราคาจะปรับลดลงมา และเมื่อราคาหุ้นนั้นปรับขึ้นไปนิดหน่อย เราก็สามารถจะรอได้อย่างไม่กลัว ไม่วิตกกังวล ว่ามันจะลง เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็จะถือรอไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ขายไปแล้วจะทำให้เรารวยขึ้น สำหรับเราการที่จะจัดว่ากำไรขนาดไหนทำให้รวยขึ้นหรือไม่ เราคิดว่า โดยประมาณแล้วกำไรไตรมาสละ 20% ขึ้นไป ถือว่า O.K. แต่เราอยากให้มองว่าก่อนการซื้อหุ้นแต่ละครั้งเราควรจะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า 30% ขึ้นไปถึงจะซื้อ ซึ่งจะเห็นผลตอบแทนระดับเกิน 1 เท่าตัวต่อปีถ้าทำได้ทุก ๆ ไตรมาส

สำหรับการที่เราเอาเรื่องสภาพตลาดมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนี้ ก็เนื่องมาจากว่าในหลายครั้ง สภาพตลาดได้
หลอกให้เรา ซื้อ หรือ ขาย หุ้นโดยผิดไปจากหลักการและเหตุผลที่เหมาะสมต่อการลงทุน ซึ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ทำให้โอกาสที่จะได้กำไรลดน้อยลง อาจจะบอกได้ว่าเรื่อง Market Sentiment นี้ก็เป็นTrap ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในเส้นทางสู่ความสำเร็จในถนนสายการลงทุนนี้ ซึ่งเราขอให้เพื่อน ๆ หลีกเลี่ยงและระมัดระวังตัวให้ดี การที่เพื่อน ๆ ขาดทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่งจากการลงทุนที่ผิดพลาด มันไม่ได้หมายความว่าเพื่อน ๆ จะเสียแค่เงินจำนวนนั้นไป แต่มันหมายความรวมถึง ดอกผลจากการลงทุนจากเงินจำนวนนั้นจะมลายหายไปโดยสิ้นเชิงด้วยเช่นเดียวกัน อันนี้ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า Opportunity Cost ซึ่งยิ่งเพื่อน ๆ มีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้นเท่าไร หรือพูดให้ง่ายคือว่า เพื่อน ๆ เก่งขึ้นเท่าไร ค่าเสียโอกาสอันนี้ก็จะยิ่งแพงขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเพื่อน ๆ ที่เคยขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหุ้น แล้วออกจากตลาดไป เราคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริง ๆ เนื่องจากเขาได้เสียเงินค่าเรียนในชีวิตจริงไปแล้ว ในราคาที่แพง และไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นมาเลย เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ของเราเรียนรู้และเพิ่มพูนความสามารถในการลงทุนของตัวเองให้มากขึ้น ทั้งจากประสบการณ์ในการกำไร และประสบการณ์ในการขาดทุน สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เพื่อน ๆ ประสบความสำเร็จต่อไปในฐานะนักลงทุนและปลายทางแห่งความมั่งคั่งก็รออยู่ข้างหน้าแล้ว บางคน หรืออาจจะหลายคนไม่รู้หรอกว่าเขาได้เดินทางเข้าไปใกล้ความสำเร็จมากเพียงใด และจะไม่มีโอกาสรู้เลยถ้าเขายอมแพ้ไปซะก่อนสำหรับเราบอกตรง ๆ ว่าเราได้ประสบกับการขาดทุน และความล้มเหลวในการวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการมาหลายครั้งแล้ว แต่เราอยากจะ Share กับเพื่อน ๆ ว่าถ้าเราเรียนรู้จากประสบการณ์ และความผิดพลาดได้เราก็พร้อมจะลุกขึ้นยืนใหม่ได้อีกครั้ง คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเคยล้มมาก่อนแล้ว แต่เขาเหล่านั้นรู้จักที่จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง หรืออีกหลาย ๆ ครั้ง จนกระทั่งประสบความสำเร็จจนได้ แต่เรื่องความพยายามลุกขึ้นสู้นี้คงจะต้องบอกว่า สู้ด้วยปัญญาและความเฉลียวฉลาดนะครับ วิธีการที่เราเคยทำมา แล้วผิดพลาดอย่ากลับไปใช้มันอีก คนเราทำผิดได้ แต่อย่าผิดซ้ำเรื่องเดิม ในชีวิตจริง บทเรียนแพงเสมอ แต่ถ้าเรารู้จักคุณค่าของมัน มันก็เป็นบทเรียนที่คุ้มค่า ขอให้เรียนรู้จากบทเรียนต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วใช้มันเป็นฐานแห่งความมั่งคั่งนะครับ

บทสรุปของเรื่อง Market Sentiment นี้ก็คือ ซื้อถูก ขายแพง นะครับ ซึ่งโดยมากแล้วการจะซื้อถูกได้ก็ต่อเมื่อเราซื้อในภาวะตลาดหมี และการจะขายแพงได้นั้นก็เมื่อเราขายในภาวะตลาดกระทิง หมายความว่าให้ทำสวนกระแสคนส่วนใหญ่ครับ เวลาคนอยากขายมาก ๆ เราซื้อ เวลาคนอยากซื้อมาก ๆ เราขายครับ

บทเรียนในชีวิตจริง ไม่มีใครสอน ไม่มีใครตรวจ ไม่มีใครให้คะแนน แต่เป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งกว่า
บทเรียนอื่น ๆ ที่เคยได้ร่ำเรียนมา เจ็บก็เจ็บจริง ทุกข์ก็ทุกข์จริง แต่ว่าที่สำคัญกว่าก็คือเมื่อประสบความสำเร็จก็ได้ลิ้มรสแห่งความสุข และความภาคภูมิในความสามารถของเราเองอย่างแท้จริง

เส้นทางสู่ความสำเร็จมีอุปสรรคขวากหนาม ไม่ยากเกินกว่าที่ผู้มีความเพียรจะเอาชนะได้แต่ก็ไม่ง่ายพอให้ผู้ไร้ความพยายามจะเดินไปถึง เป็นทางแห่งความฝันที่มีเพียงบางคนทำให้เป็นจริงได้
และก็เป็นทางแห่งความจริง ที่คนจำนวนมากนักเห็นเป็นเพียงภาพฝันเลือนราง และยอมแพ้ก่อนจะก้าวเดินไป

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น

#การลงทุนในหุ้น #จังหวะการลงทุน

——————————–
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามบทความดีๆจากเพจ facebook สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น สามารถเข้าไปที่ www.facebook.com/thaistockfocus กด like หรือ saved และเพื่อสามารถติดตามบทความจากทางเพจแบบอัพเดททุกวัน โดยทำได้ดังนี้ เอาลูกศร mouse ไปวางบน liked แล้วเลือก Get notification หลังจากนี้เมื่อเวลาทางเพจได้ลงบทความไว้ก็จะขึ้นเตือนที่ notification ของคุณทันที

Similar Posts