ลงทุนในหุ้นสไตล์ John Neff

กับคำคมของ John Neff อันนึงก็คือ ผมจะไม่ซื้อหุ้นเด็ดขาด ถ้ามันไม่มีการลดราคาอย่างมาก

ชื่อของ John Neff นั้นอาจจะไม่ใช่ชื่อที่นักลงทุนในบ้านเราจะคุ้นหูหรือรู้จักกันดีเท่าไร แต่ถึงจะอย่างไร John Neff นั้นก็ถือได้ว่าเป็นผู้จัดการกองทุนคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จตลอดการทำงานในฐานะผู้จัดการกองทุน Vanguard Windsor ตลอด 30 ปี ที่น่าสนใจคือว่า John Neff นั้นสามารถให้ผลตบแทนแก่นักลงทุนติด 5 อันดับสูงสุดมาโดยตลด ด้วยผลตอบแทนมากกว่า 13% ซึ่งหากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนี S&P 500 จะอยู่เพียงแค่ 10.6% เท่านั้นเอง John Neff นั้นมีชื่อเสียงกับการลงทุนแบเน้นคุณค่า ซึ่งจะเลือกธุรกิจ/กิจการที่มีพื้นฐานดี มีการเติบโตอยู่ตลอด มีการจ่ายปันผลที่ดีและจะถือหุ้นๆนั้นจนกว่าราคาจะเกินมูลค่าไปแล้ว และตลอดเวลา John Neff จะกระจายหุ้นไปประมาณ 70-80 ตัว โดยแต่ละตัวจะมีสัดส่วนประมาณ 1% ยกเว้นตัวที่ John Neff ตีแตกจริงๆอาจจะลงทุนถึง 5% ได้

จอห์น เนฟฟ์ (John Neff) เมื่อครั้งเป็นผู้จัดการกองทุนนั้นจะมีวิธีคิดและวิเคราะห์โดยให้ทุกอย่างดูเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง และได้แบ่งหุ้นเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งก็คือ หุ้นเติบโต (Growth Stock) และ หุ้นอุตสาหกรรมพื้นฐาน (Basic Industry Stock) ซึ่ง หุ้นเติบโตนั้นจะเน้นไปยังการเติบโตที่มาก และเป็นจังหวะของธุรกิจที่กำลังเติบโตพร้อมทั้งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกยาวนาน ส่วนหุ้นอุตสาหกรรมพื้นฐานนั้นจะเป็นหุ้นพื้นฐานที่ดีและเป็นรากฐานของเศรษฐกิจในประเทศๆนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้น Blue Chip หรืออาจจะเป็นหุ้นใน SET 50

หลักการเลือกหุ้นลงทุนของ จอห์น เนฟฟ์

1. มีงบดุลที่ดีมากๆ

2. กระแสเงินสดต้องเป็นบวก

3. ต้องมี ROE สูงๆ และต้องสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนั้น

4. ธุรกิจนั้นต้องมีการจัดการที่ดี

5. ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังจะรุ่งหรือมีตัวกระตุ้นในการเติบโตแบบไม่ไกล

6. ต้องมีสินค้าและตลาดที่ดี

7. ผลตอบแทน (การเติบโต + เงินปันผล) ต้องมากกว่าค่า P/E

หากใครสนใจแนวการลงทุนแบบ John Neff ก็สามารถนำไปดัดแปลงวิธีให้เหมาะสมได้ครับ ขอให้โชคดีในการลงทุน

—————————————————————————————————————–
ทาง Thaistockfocus ได้จัดการสอนหุ้นแบบสอนเดี่ยวหรือกลุ่ม สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเริ่มต้นลงทุนในหุ้นในแบบหุ้นคุณค่าหรือ Value Investment รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ http://goo.gl/PtKSRj

#การลงทุนในหุ้น #หุ้น #สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น