บทเรียนการลงทุน: บทที่ 3 รวบเงินมาลงทุน

บทเรียนการลงทุน: บทที่ 3 รวบเงินมาลงทุน

เรื่องเวลาลงทุนผมคงไปบีบใครให้รีบมาลงทุนได้ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจพอใจของแต่ละคน แต่เงินการลงทุนนั้นผมแนะนำได้

เงินที่เราสามารถเอามาลงทุนนั้น อาจจะมาจากเงินเก็บ อาจจะมาจากเงินจากเงินเดือนของแต่ละเดือน หรือแบ่งมาจากรายได้ของธุรกิจ และจากของเหลือใช้ที่ไม่ได้ใช้แล้ว

ถ้าหากเอามาจากเงินเก็บแล้ว ขอให้แบ่งเป็นส่วนที่เผื่อไว้ใช้ฉุกเฉินก่อนนำมาลงทุน ซึ่งเงินก้อนนี้จะพอใช้แต่ละเดือนประมาณ 6-12 เดือนและเผื่อไว้ใช้สำหรับเจ็บไข้นิดหน่อย หากเงินเก็บยังเหลือ สามารถเอามาลงทุนได้ครับและควรเอามาลงทุนด้วยแต่หากไม่มีเงินเก็บไม่เป็นไรครับ เรายังมีรายได้ประจำอยู่หรือรายได้จากธุรกิจอยู่

หากมีรายได้ประจำหรือรายได้ประจำจากธุรกิจอันนี้ไม่ยาก รายได้ประจำจากงานหรือธุรกิจ หักค่าใช้จ่ายจำเป็นก่อนเป็นก้อนแรก (ค่าใช้จ่ายจำเป็นที่เกิดขึ้นทุกเดือนเช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ไม่นับค่ากินอยู่เพราะสามารถปรับได้) แล้วค่อยหักก้อนที่สองเป็นเงินออมที่ใช้ลงทุน ส่ว่นที่เหลือค่อยเอาไว้กินอยู่ หากเราใช้น้อยลง ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเราสามารถเปลี่ยนเงินส่วนนั้นมาเป็นเงินออมได้ ซึ่งผมลองยกตัวอย่างให้เห็นได้ว่า หากเรากินกาแฟทุกวันวันละ 50 บาท เดือนนึงเราจะเสียค่ากาแฟไป 1500 บาท หรือ 18000 ต่อปี ซึ่งหากเราลดการกินกาแฟลงได้ครึ่งนึง จะทำให้เงินเหลือ 9000 บาทต่อปีซึ่งเงินจำนวนนี้เราก็สามารถนำไปทำให้งอกเงยได้

และสำหรับอีกก้อนนึงคือเงินที่ได้มาจากการขายของของเราที่ไม่ได้ใช้แล้ว เราลองมองไปรอบๆบ้าน เราอาจจะเจอของที่ไม่ได้ใช้อยู่เต็มไปหมด ทิ้งเอาไว้ก็มีแต่เสียมูลค่าลงไป ลองเอาของเหล่านี้ไปขายเปลี่ยนเป็นเงินมา ซึ่งเงินก้อนนี้ก็สามารถนำเอาไปลงทุนได้เช่นกัน

ถึงตรงนี้แล้วไม่ยากใช่มั้ยครับที่จะเอาเงินมาลงทุน เลิกหาข้ออ้างต่างๆที่จะไม่ลงทุนได้แล้วครับ หากยังมีข้ออ้างอีก ผมจะแนะนำให้หางานพิเศษเพิ่มเพื่อให้มาลงทุน อย่าลืมนะครับ ลงทุนก่อนรวยกว่า เราควรจะเริ่มการลงทุนให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะพร้อมได้ครับ

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น

#สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น #ออมหุ้น #ลงทุนในหุ้น

——————————————————————————
ติดตามอ่านเรื่องดีๆเกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนต่อได้ที่ สิ่งที่เล็กๆที่เรียกว่าหุ้น ได้ที่นี่เลยครับhttp://goo.gl/VtZwae

Similar Posts