ทำความรู้จักงบการเงินเบื้องต้นแบบง่ายๆ
ทำความรู้จักงบการเงินเบื้องต้นแบบง่ายๆ
ได้ยินคำว่างบการเงิน หลายๆคนส่ายหน้า บางคนเคยได้แค่ยิน บางคนไม่เคยรู้เลยว่าคืออะไร บางคนเปิดมาเจอตัวเลขยึบยับไปหมด จริงๆงบการเงินเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆสำหรับนักลงทุน เราจะเข้าใจสถานะและโครงสร้างของบริษัทได้ส่วนจะลึกแค่ไหนอันนี้ต้องแล้วแต่คนจะเจาะหาข้อมูลต่อยังไง วันนี้ผมเลยอยากมาอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับงบการเงิน
งบการเงินนั้นแบ่งเป็น 3 ตัว งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด เรามาดูกันว่าแต่ละตัวมีหน้าที่อะไร
งบดุล (balance sheet) ก็คืองบที่บอกว่าสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของเรามีโครงสร้างอะไรบ้าง เราจะรู้ได้ว่า เรามีสินทรัพย์อะไรบ้าง (ในฐานะเจ้าของ เราก็น่าจะรู้หน่อยใช่มั้ยว่ามีสินทรัพย์อะไรบ้าง) เมื่อเรามองไปสินทรัพย์แต่ละตัวเราก็จะรู้แล้วว่า สัดส่วนของสินทรัพย์เนี่ยมีอะไรเยอะน้อยยังไง สินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมีอะไรบ้าง, หนี้สินระยะสั้น ระยะยาวมีอะไรบ้าง หากอยากรู้ต่อก็เข้าไปดูได้ที่ note ในงบการเงินก็จะเห็นว่าหนี้สินแต่ละอย่างมีระยะเวลาเท่าใด มีส่วนไหนบ้างที่ต้องเสียดอกเบี้ย, และส่วนสุดท้ายก็จะเห็นว่าส่วนของเจ้าของนั้นเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามทั้งหมดนั้นจะเป็นมาจากสูตรนี้คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน+ส่วนของเจ้าของ ด้วยสูตรง่ายๆเราก็จะได้รู้ว่า สินทรัพย์ที่มีนั้น เอาเงินจากหนี้สินหรือส่วนของเจ้าของมาซื้อ
งบกำไรขาดทุน (Income Statement) ก็จะแสดงรายรับรายจ่ายต่างๆ หน้าที่ของนักลงทุนก็คือเข้าไปดูซิว่าธุรกิจเป็นอย่างไร รายได้ ต้นทุนสินค้าเป็นอย่างไร มีรายจ่ายอะไรที่เยอะ มีรายรับอะไรบ้าง ในส่วนนี้เราก็จะเข้าใจคุณภาพของรายได้และกำไรว่ามีที่มาอย่างไร จริงๆบรรทัดสุดท้ายที่บอกว่ากำไรขาดทุนเท่าไรก็พอดูได้ แต่ดูให้ละเอียดอีกหน่อยเราก็เข้าไปดูว่าที่มาที่ไปของกำไรนั้นมาจากไหน เราจะได้เข้าใจการดำเนินธุรกิจของบริษัทไปด้วย และในเวลาเดียวกันเราก็จะสามารถเปรียบเทียบผลงานกับปีก่อนๆได้
งบกระแสเงินสด (Cash flow) ก็คืองบที่จะบอกเราว่ากระแสเงินสดในบริษัทนั้นมาจากไหน และก็แบ่งเป็น 3 ประเภทเท่านั้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน กระแสเงินสดจากการลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงิน
1.กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ก็ตรงตัวเลย ก็คือเงินสดที่ได้จากการดำเนินธุรกิจปกติ กำไรเท่าไรเป็นเงินสดจริงๆเท่าไร กิจการดีๆ ควรมีส่วนนี้เป็นบวก (แต่ก็ขึ้นกับลักษณะของกิจการอีกด้วยนะครับ)
2.กระแสเงินสดจากการลงทุน เราจะเห็นว่าเงินสดบริษัทได้ถูกเอาไปใช้จ่ายลงทุนอะไรบ้าง ไม่ว่าลงทุนโรงงานใหม่ ซื้อที่ดิน ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ จะอยู่ในส่วนนี้ ส่วนใหญ่ก็จะติดลบเพราะว่าต้องเอาไปใช้ลงทุนในกิจการ แต่ก็อาจจะบวกได้ถ้าหากบริษัทนั้นๆมีการขายการลงทุนต่างๆออกไปและได้เงินเข้ามาแทน
3.กระแสดเงินสดจากกิจกรรมทางการเงิน ก็คือเงินสดที่ได้จากการกู้ยืมเงิน หรือรับ/จ่ายเงินปันผล ดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่จะเป็นลบ แต่ถ้าบวกก็แปลว่า บริษัทได้เงินเอามาใช้ในธุรกิจจากการกู้ยืมนั่นเอง
ทั้งหมดทั้งปวง เราก็จะรู้จักบริษัทนี้คร่าวๆ ว่าบริษัทนี้เป็นอย่างไร ส่วนอะไรดีไม่ดี เดี๋ยวหากมีเวลาจะมาต่อบทความที่ลึกขึ้นไปอีกนะครับ วันนี้จบแค่นี้ก่อน
ส่วนคนที่โทรมาถามเกี่ยวกับคอร์สอบรม ยังไงตัดสินใจเข้าร่วมรบกวนโทรมาคอนเฟิร์มอีกทีด้วยนะครับ หรือหากว่าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็โทรมาที่ 0892032176 หรือเข้าไปที่ www.thaistockfocus.com แล้วมาเจอกันวันที่ 28 มีนาคมนี้ (เสาร์นี้แล้วนะ)