10 กลยุทธ์เล่นหุ้นให้คุณเจ๊งแบบง่ายๆ

10 กลยุทธ์เล่นหุ้นให้เจ๊งแบบง่ายๆ

สำหรับคนที่เริ่มลงทุนไปแล้วหรือยังไม่เคยได้ลองดู
วันนี้มาลองดูตัวเองกันครับว่าเราทำสิ่งต่างๆเหล่านี้กันบ้างรึเปล่าครับ

1. ซื้อหุ้นโดยไม่รู้จักตัวบริษัทหรือธุรกิจ:

รู้จักแต่ชื่อย่อไม่ได้รู้อะไรอย่างอื่นเลยนอกจากนั้น
ธุรกิจทำอะไร รายได้จากส่วนไหน ใครเป็นลูกค้า อนาคตธุรกิจจะเป็นยังไง
ตอนซื้อซื้อเพราะชื่อเท่านั้น สุดท้ายหุ้นขึ้นหุ้นลงก็เครียด
เพราะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆเลย ลองปรับนิดนึงลองเรียนรู้ธุรกิจนั้นๆ
ลองหาข้อมูลหาข่าวดู ทำการบ้านเรียนรู้และวิเคราะห์ธุรกิจนั้นๆก่อนซื้อครับ

2. ซื้อหุ้นราคาแพง PE สูง กำไรน้อยหรือขาดทุนและไม่มีแนวโน้มจะกลับมาดีได้:

หุ้นบางตัวราคาเทียบกำไรต่ำมาก
P/E Ratio ก็สูงปรี้ด ธุรกิจแทบจะไม่มีกำไรและแนวโน้มก็แทบจะไม่มีโอกาสจะกลับมาทำธุรกิจได้ปกติ
แต่ก็เข้าไปซื้อเพราะหวังว่าจะแพงขึ้นไปอีก หรือจะ turnaround

3. ซื้อตามเซียน ใครว่าไงว่าตาม:

เค้าบอกมา
เค้าแนะนำมา มีเพื่อนบอก เซียนเค้ากระซิบมา
อันนี้ก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียวบางทีก็อาจจะดีก็ได้ บางครั้งก็ถูกแถมได้เยอะด้วย
แต่บางทีตอนไม่ดีคนที่บอกมาเค้าคัททิ้งไปนานแล้วไม่ได้บอกเราไม่ว่าลืมหรืออะไรแต่เรายังไม่ขายจนกระทั่งได้คุยกันว่า “อ้าวยังไม่ขายอีกหรอ ลงแบบนี้ทำไมไม่ขายอีก
ถือมาถึงตอนนี้ขาดทุนเละเทะนะ แต่ถือต่อไปก็คงไม่กลับมา”

4. ไม่วางแผนการลงทุน ทั้งซื้อและขาย รวมถึงเป้าก็ไม่มี:

ซื้อเพราะอะไรก็ไม่รู้
รู้ว่าหุ้นดี ไม่รู้จะซื้อเท่าไร ขายเท่าไร แล้วจะทำยังไงกับหุ้นตัวนี้
ราคาขึ้นลงก็ไม่รู้เพราะอะไร งงๆ ลองวางแผนทำการบ้าน
ทำการวิเคราะห์หุ้นนั้นๆลองดูว่ามูลค่าเป็นอย่างไร การเติบโตยังไง
ซื้อตัวนี้ต้องถือนานแค่ไหนกว่าจะปลดล็อคมูลค่านั้นๆได้ ตัวเร่งของธุรกิจเป็นอะไร

5. กลยุทธ์ผสมกลับไปกลับมา ตอนซื้อวิเคราะห์ดิบดีแบบ
VI ว่าธุรกิจจะเติบโต 100 -200% ใน 5 ปี อีกวันราคาลงไปนิดนึงรีบขาย:

ตอนเลือกหุ้นผมเห็นบางคนใช้การวิเคราะห์แบบละเอียดถี่ยิบมากๆ
สามารถคำนวณกำไรในอนาคตว่าเท่านั้นเท่านี้ปี กำไรจะโตแบบนี้แบบนั้น แต่พอซื้อปุ้ป
พรุ่งนี้ราคาลงรีบขายเลย
ความโลเลในกลยุทธ์แบบนี้อาจทำให้เราไม่ชัดเจนไม่เข้าใจกลยุทธ์จริงๆได้และอาจทำให้ขาดทุนได้ด้วยหรือในหลายๆครั้งเราอุตส่าห์เจอหุ้นดีๆแต่ปล่อยไปเพียงเพราะราคา

6. ทนถือหุ้นที่ไม่มีอนาคตเพื่อรอราคามันกลับมาซึ่งหลายๆทีจะไม่ค่อยกลับมาเท่าไร:

ถือหุ้นเน่าๆไว้เต็มพอร์ต
หุ้นที่ธุรกิจมันไม่มีอนาคตแล้วและก็ปล่อยให้มันแดงติดลบได้ทุกวัน
ด้วยความหวังว่าวันนึงจะกลับมา
มันอาจจะไม่กลับมาก็ได้ครับจนสุดท้ายอาจจะเป็นกระดาษแผ่นนึงไป สิ่งที่คุณทำได้คืออย่าหลอกตัวเองธุรกิจไหนคิดแล้วว่าไม่ดีก็ปล่อยไปถึงแม้จะขาดทุน
ถือว่าเป็นค่าวิชาในความผิดพลาดของการวิเคราะห์ครับ

7. รีบขายหุ้นดีๆออกไปก่อนเวลาอันควร:

คล้ายๆกับข้อ
6 แต่กลับด้านกัน คือหุ้นดีๆขึ้นมานิดเดียวรีบขาย
กลัวจะได้กำไรเยอะกันเสร็จแล้วก็เก็บแต่หุ้นแย่ๆเอาไว้ในพอร์ต

8. หุ้นที่มีผู้บริหารธรรมาภิบาลไม่ค่อยดีหรือประวัติการบริหารไม่ดี:

มีประวัติทุจริต
ยักยอกเงิน ไซฟ่อน หรือว่ามุบมิบๆทำอะไรไม่ดีกับบริษัท
หรือมักจะมีนอกมีในกับบริษัทบ่อยๆ อันนี้ต้องระวังเลย
เพราะว่าเงินคุณที่ลงทุนในบริษัทแบบนี้ เราเหมือนฝากเงินเราไว้กับคนที่ไว้ใจไม่ได้
ลองหาข้อมูลเก่าๆประวัติผู้บริหารท่านนั้นๆก่อนตัดสินใจ
แต่ก็เป็นส่วนที่หาข้อมูลค่อนข้างยากที่สุดอย่างนึงครับ

9. ซื้อหุ้นแพงมากๆและหวังว่ามันจะโตขึ้นมากๆไปเรื่อยๆเป็นปีๆตลอดไป:

ถึงแม้หุ้นจะดีแค่ไหนแต่ในราคาที่แพงมากๆและหวังว่าหุ้นตัวนั้นจะโตไปแบบนี้แบบไม่มีวันสิ้นสุด
นั่นจะหมายความว่าธุรกิจนี้หุ้นนี้ จะสามารถมียอดขายแบบถล่มทายและเป็นธุรกิจที่สุดยอดของโลกได้ในไม่ช้า
มันจะเป็นไปได้อย่างนั้นเลยหรอ??

10.ซื้อตอนแพงขายตอนถูก:

อันนี้ผมเดาว่าทำกันประจำ
เราเป็นนักลงทุนแบบคนใจบุญกันครับ ซื้อแพงๆมาขายเอาถูกๆ
ลงทุนเล่นหุ้นไม่ได้หวังกำไร เอาไว้สนุกๆ ไม่ใช่นะครับ ต้องทำกลับกัน
ซื้อหุ้นต่ำกว่ามูลค่าแล้วไปขายตอนที่มันเกินมูลค่าไปครับ

ถ้าหากมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ ยังไงลองปรับเปลี่ยนดูนะครับ
ผลตอบแทนการลงทุนอาจจะได้สูงกว่านี้หรืออาจไม่ต้องเจ๊งหุ้นได้ครับแต่ใครไม่อยากเจ๊งหุ้นหรืออยากมีความรู้ดีๆก่อนการลงทุน
เรามีคอร์สจัดสอนการลงทุนสำหรับมือใหม่ด้วยนะครับ ลองเข้าไปดูกันได้ที่ www.thaistockfocus.com ครับ

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น

#ลงทุนในหุ้น #กลยุทธ์การลงทุน #เจ๊งหุ้น