ย้อนรอยวิกฤติ 100 จุด ปี 2549 (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)

ย้อนรอยวิกฤติ 100 จุด ปี 2549 (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)

(บทความนี้เขียนมานานแล้ว)

วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องวิกฤติแล้วกันนะครับ ที่เราตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ ก็เนื่องมาจากว่าเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้หุ้นตกอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากปิดตลาด SET Index ติดลบไปถึงร้อยกว่าจุด ทั้งนี้เนื่องมาจากการประกาศนโยบายควบคุมการไหล เข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศ ของธนาคารแห่งประเทศไทย เราคงจะไม่เล่าในรายละเอียด แต่ว่าโดยสรุปใจความได้ว่า เนื่องจากทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท และมีนโยบายที่จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงบ้าง จึงประกาศมาตรการ ให้เงินลงทุนระยะสั้นจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทุก ๆ 100 บาท จะต้องฝากไว้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ก่อน 30 บาท ลงทุนได้เพียง 70 บาท

ทำให้ เกิดความปั่นป่วนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนทันทีหลังการเปิดทำการ โดยในตลาดเงินค่าเงินบาทอ่อนลงอย่างรวดเร็วและมีเงินทุนไหลออกจากประเทศไทยจำนวนมาก ส่วนทางด้านตลาดทุนนั้น SET Index ลบลงมา 50 – 60 จุดเมื่อตลาดเปิดทำการมาได้เพียงไม่กี่นาที โดยจุดต่ำสุดของวันติดลบลงไปถึง 140 จุด ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า มาตรการของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมุ่งหวังจะให้มีผลกับตลาดเงิน กลับสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดทุน ซึ่งไม่ได้เป็นเป้าหมายโดยตรงที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งใจให้เกิด ดังนั้นในฐานะนักลงทุน ซึ่งพวกเราพยายามจะทำตัวให้เป็น “นักลงทุนผู้ชาญฉลาด” ก็ควรจะต้องติดตามข่าวสารต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น และ มูลค่าของหุ้นของเราอยู่เสมอ นี่เขียนมาตั้งนานจะบอกอะไรเนี่ย ?

ก็ จะบอกว่าอย่างนี้ครับเพื่อน ๆ “ราคาหุ้น” กับ “มูลค่าของหุ้น” ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวกันนะครับ ขอให้เพื่อน ๆ เข้าใจให้ถูกต้องนะครับ ถ้าจำไม่ได้ขอให้ย้อนกลับไปอ่าน Stock Valuation ตอนแรก ใหม่อีก 1ครั้ง เรามาลองดูกันนะครับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบอย่างไรบ้าง จะเห็นได้ชัดว่ามันมีผลกระทบต่อ“ราคาหุ้น” อย่างรุนแรงครับ ทำให้หุ้นเกือบทุกตัวในกระดาน ราคาตกลงมา มากบ้างน้อยบ้าง แต่ถ้าเราถามว่าแล้วมันมีผลอะไรต่อ “มูลค่าของหุ้น” บ้างล่ะ ?

เราลองมาดูกันดีกว่า ถ้าเราถามว่า บริษัทที่ขายน้ำมัน ขายปูน ทำกิจการเดินเรือ หรือว่าทำธุรกิจอะไรก็ได้ การที่มีมาตรการดังกล่าวออกมานั้น จะทำให้บริษัทพวกนี้มีรายได้มากขึ้นหรือว่าน้อยลงมั๊ย ? ถ้าตามความเห็นเรานะ เราก็ว่าไม่หรอก มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลย แต่ว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องล่ะ อ้าวก็คิดง่าย ๆ มาตรการนี้มันเป็นมาตรการที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินใช่มั๊ย ? แล้วบริษัทพวกไหนที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินมากที่สุดล่ะ ก็ต้องเป็นBank สิ แล้ว Bank ไหนจะได้รับผลกระทบยังไง เป็นไปในทางที่ดีหรือว่าไม่ดี ก็ต้องไปดูกันในรายละเอียดอีกที เราเองไม่ขอวิจารณ์ และ วิเคราะห์ธุรกิจของหุ้นกลุ่มนี้นะครับ เพราะว่าเราไม่มีเคยมีความสนใจที่จะซื้อหุ้นBank เลยซักตัวเดียว แต่ว่า ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองไปวิเคราะห์ดูกันเอาเองก็แล้วกันครับ

ทีนี้มาตรการของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ออกมานี้ก็จะมีผลกระทบต่อไปอีกในแง่ของค่าเงินบาทจากการที่ค่าเงินบาท แข็งขึ้นมาก (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงิน American Dollar) คราวนี้เป็นเรื่องที่เป็นผลกระทบโดยตรงแล้วล่ะครับ เรามาดูกันง่าย ๆ เมื่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะแข็งขึ้นหรือว่าอ่อนลงก็ตามจะต้องมีกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ โดยกลุ่มผู้ส่งออกจะมีรายได้ในรูปเงินบาทลดลง และ กลุ่มผู้นำเข้าจะมีรายจ่ายในรูปเงินบาทลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้น กำไรคาดการณ์ของกลุ่มส่งออกจะต้องถูกปรับลดลงและกำไรคาดการณ์ในของกลุ่มผู้นำเข้าจะต้องถูกปรับเพิ่มขึ้น โดยผู้ส่งออกที่จะโดนผลกระทบหนักที่สุดก็คงจะเป็นผู้ส่งออกไปยังตลาด สหรัฐอเมริกา เนื่องจากบาทแข็งขึ้น พร้อม ๆ กับ U.S.D. อ่อนลง จะเห็นได้ว่าจริง ๆแล้วการที่หุ้นลงมา ร้อยกว่าจุด ไม่ได้มีผลกระทบต่อ “มูลค่าของหุ้น” ทุกบริษัทเท่ากันหมด ดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าบริษัทไหนที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี (ดีอยู่แล้วเมื่อก่อนหุ้นจะลง) แล้วราคาหุ้นลงมามาก ๆ ก็เข้าไปซื้อเมื่อราคามันถูก ๆ สิครับ นี่เป็นโอกาสของพวกเราแล้ว และโอกาสอย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ จริงมั๊ย ?

สำหรับบทความที่เราเขียนเสมอมาหลายตอนติดต่อกันนี้ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่อ่านแล้ว มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งล่ะก็ คงจะเห็นได้ว่าบทความที่เรานำเสนอนี้ ใช้หลักการสำคัญอยู่เพียงอย่างเดียว คือการวิเคราะห์มูลค่าของหุ้น ซึ่งจะทำให้เรารู้ได้ว่า หุ้นตัวไหนถูก และ หุ้นตัวไหนแพง ที่ราคาเท่าไร

ดังนั้นต่อไปนี้ เราขอให้เพื่อน ๆ ผู้อ่านทุกคนมองเห็น “มูลค่าของหุ้น”ตามความเป็นจริงนะครับ ขอให้ทุกคนค่อย ๆ ปลูกต้นไม้แห่งความมั่งคั่งขึ้นมา ขอให้มันออกดอกออกผลอย่างงดงามและเมื่อเพื่อน ๆ รู้จักหุ้น “ถูก” กับหุ้น “แพง” แล้วเราขอสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ “ซื้อหุ้นเมื่อถูก ขายหุ้นเมื่อแพง”

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น

#สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น #วิกฤติการลงทุน #การลงทุนในหุ้น

——————————————————————————
ติดตามอ่านเรื่องดีๆเกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนต่อได้ที่ สิ่งที่เล็กๆที่เรียกว่าหุ้น ได้ที่นี่เลยครับwww.facebook.com/thaistockfocus

Similar Posts