กลยุทธ์ลงทุนสำหรับช่วงหุ้นตก
กลยุทธ์ลงทุนสำหรับช่วงหุ้นตก
ในยามที่ตลาดลงและ panic หนักๆหุ้นใหญ่เล็กทั้งหลายต่างก็ลงกันหมดมากน้อยต่างกันไป บางตัวนั้นลงมามากหลายสิบ% นักลงทุนทั้งหลายต่างตกอยู่ในความวิตกกังวลและความกลัวว่าตลาดจะยิ่งแย่ และจะยิ่งแย่ไปเรื่อยๆ หลายๆคนเลือกที่จะขาย ขาดทุนไม่เป็นไร แต่อย่าขาดทุนเยอะ นักลงทุนหลายๆคนอาจจะไม่กล้าคัตขาดทุนก็จะทนถือรอไปเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีผิดไม่มีถูกครับ
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เข้าใจเหตุผลต่างๆก่อนว่า ทำไมหุ้นถึงตก ตกทั้งตลาดหรือโดยส่วนมาก หรือตกแค่บางตัว เหตุผลต่างๆนั้นอาจจะเป็นในเรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจระดับมหาภาค หรือว่าประเทศไทย หรือเฉพาะธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง และเมื่อคุณได้เหตุผลต่างๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด ให้กลับไปดูที่พื้นฐานธุรกิจของหุ้นที่เราถือทุกๆตัว ลองวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ด้วยเหตุผลที่คุณคิดได้เมื่อครู่ มันกระทบอะไรกับหุ้นของเราบ้าง เช่นว่า เมื่อกรีซมีปัญหา ตลาดทั่วโลกตอบรับข่าวนี้ในแง่ลบและหุ้นส่วนใหญ่ก็จะราคาลง แต่ธุรกิจหรือหุ้นที่คุณถืออยู่นั้นกลับไม่ถูกกระทบทางพื้นฐานเลย ซึ่งราคาที่ลงก็จะเป็น sentiment ของตลาดที่ความกลัวทำให้เกิดการเทขายหุ้นไม่ว่าจะเป็นหุ้นดีหรือไม่ดี นักลงทุนรายใหญ่หรือว่ากองทุนต่างๆอาจทำเป็นต้องเทขายหากมีนักลงทุนแห่ไปขายกองทุนกัน ดังนั้นราคาหุ้นที่ลงหากไม่เกี่ยวกับพื้นฐานที่เปลี่ยนไป ยังไม่ต้องไปวิตกกังวล แต่ว่า หากการลงของราคานั้นเกิดจากปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อธุรกิจนั้นอย่างเต็มที่และเป็นเหตุที่จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว คุณต้องตัดสินใจดีๆแล้วว่าจะทำอย่างไรกับธุกริจที่พื้นฐานเปลี่ยนไปอย่างนี้ การนอนกอดไว้โดยไม่เข้าใจจะยิ่งทำให้เหตุการณ์แย่ลงได้
ในมุมกลับกัน หากเราวิเคราะห์ดีแล้วและการลดลงของราคาหุ้นไม่ได้มาจากพื้นฐานที่แย่ แต่เป็นการขายตามตลาดไปเท่านั้น นักลงทุนหุ้นคุณค่านั้น ต้องกล้าเมื่อคนอื่นกลัว วิเคราะห์ให้ดีให้มั่นใจให้ได้ว่า หุ้นนี้ยังดีแค่เป็นแค่ช่วง Sale เท่านั้น ราคาถึงหล่นล่วงลงมา ดังนั้นจึงสามารถเก็บเพิ่มได้ และเช่นเดิม หากคิดว่าลงแล้วแต่ยังลงไม่สุด หากราคาที่เราประเมินออกมาแล้วราคาปัจจุบันก็ยังต่ำกว่าก็ทยอยซื้อตามกลยุทธก็ได้ ไม่ว่าจะซื้อรวดเดียว หรือแบ่งเป็น 2-3 งวด ค่อยๆทยอยซื้อไป และเมื่อซื้อแล้วอาจจะลงต่ออีก ก็อย่ากังวลไป เพราะเราซื้อหุ้นขาลงมันก็จะมีแนวโน้มที่ลงต่อ แต่ว่าเราได้หุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่ามาแล้วจากที่เราวิเคราะห์ ทีนี้หลังจากเมฆหมอกหายไป ฝนหยุดตก พายุหายไป หุ้นพื้นฐานดีต่างๆก็จะออกมาวิ่งเต้น วาดลวดลายกันใหม่และสามารถกลับไปที่ราคาเดิมได้ไม่ยาก
สุดท้าย ตั้งสติ วิเคราะห์ทุกอย่างด้วยเหตุผลก่อนตัดสินใจซื้อหรือขาย การสวนกระแสด้วยการทำตรงข้ามกับตลาดอาจจะดูเป็นสิ่งที่ไร้สาระแต่หากเป็นสิ่งที่เราคำนวนและวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว จะทำให้เกิดผลบวกมากกว่าครับขอให้โชคดีในการลงทุนนะครับ