วิเคราะห์ AJD
วิเคราะห์ AJD
ภาพรวมบริษัท
AJD หรือทีรู้จักกันในนม บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) และสโลแกนที่คุ้นหู พระเอกตัวจริง แต่ไม่รู้ว่าที่ผ่านมายังเป็นพระเอกอยู่มั้ยไม่แน่ใจเพราะเห็นคนบ่นกันเยอะ AJD นั้นเป็นบริษัทเทรดดิ้งเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็คือซื้อมาขายไปโดยเน้นไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านทั่วไปและแปะแบรนด์ตัวเอง AJ
สัดส่วนรายได้
สัดส่วนรายได้กว่า 80% มาจากเครื่องเล่น dvd และเครื่องเสียงต่างๆรวมถึงกล่อง set top box ที่ได้อานิสงค์จากเงินสนับสนุนของกสทชทำให้ยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นกระฉูดแต่เมื่อโครงการนี้จบไปก็จะกลับมาเป็นกลุ่ม av ปกติ และที่เหลือจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าปกติ เช่นตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว แอร์ โดยมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 20%
ช่องทางการจำหน่าย
ช่องทางการจัดจำหน่ายก็จะเป็น modern trade กว่า 70% ที่เหลือก็จะเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปประมาณ 30% โดยไม่มีการสั่งซื้อตรงๆจากลูกค้า
มูลค่าตลาด
เมื่อครั้งจัดตั้งบริษัทนั้นใช้ทุนจดทะเบียน 470 ล้านแต่เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ทุนจดทะเบียนกว่า 3พันล้านบาท และปัจจุบันมี market capประมาณ 5.5 พันล้านบาท ที่ราคาปัจจุบันที่ 1.71 บาท ซึ่งสูงสุดใน 52 อาทิตย์คือ 5.25 และต่ำสุดที่ 0.81 บาทใครติดข้างบนก็ทำใจหน่อยนะครับ
ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดและกรรมการผู้จัดการคือคุณ อมร มีมะโน ด้วยสัดส่วน 11.65%
โครงการอนาคต
ในอนาคตก็จะมีโครงการทำสินค้าที่เป็น online มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น TV content ที่ป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์, ส่งออกละครไทยไปต่างประเทศ, หรือว่าเกมออนไลน์
โอกาส
สำหรับ roadmap หนึ่งในแผนแม่บทเรื่อง digital economy นั้น ก็จะช่วยให้โครงการในอนาคตนั้นมีอนาคต รวมถึงที่เป็นข่าวคราวไปและทำให้ราคาพุ่งขึ้นสูงนั้นก็จะเป็นเรื่องตู้เติมเงินที่เตรียมจะขาย 20000 ตู้ ซึ่งอาจจะทำให้รายได้โตขึ้น 2-3 เท่าได้ นอกจากนี้ยังมีการตกลงเบื้องต้นกับ บริษัท Ecommerce ในจีนอีกด้วย
อุปสรรค
- ด้วยตัวสินค้าที่เป็นสินค้าเทคโนโลยีนั้น ก็มีโอกาสในการล้าสมัยได้และจำเป็นต้องตั้งสำรองไว้
- การที่พึ่งช่องทางขายจากการมี Modern trade เยอะ
- การแข่งขันของตัวสินค้าที่สูง
- อัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเป็น trading จึงต้องเสี่ยงกับอัตราแลกเปลี่ยนตลอด
จุดแข็ง
- เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและยังสามารถขยายตลาดได้ต่อเนื่อง ทำให้รายได้สามารถเพิ่มขึ้นได้ และมีความสามารถในการบริหารที่ดีทำให้ margin ของสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
จุดอ่อน
- จากงบการเงิน จะเห็นได้ว่า สภาพคล่องดูแย่ลง และการเก็บหนี้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน(เพราะเน้นขายไปยัง modern trade) แต่การจ่ายหนี้ให้กับเจ้าหนี้นั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2 เดือน ซึ่งทำให้หากต้องการขยายกิจการก็จำเป็นต้องหาเงินสดมาใช้ในธุรกิจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากการกู้หรือว่าการเพิ่มทุน และทำให้ไปเจอความเสี่ยงอีกจุดนึงก็คือเมื่อต้องการเพิ่มยอดขายก็จำเป็นต้องสั่งของมาเก็บมากขึ้นและทำให้มีความเสี่ยงต่อการล้าหลังของสินค้าที่สต็อคไว้
สรุป
ภาพรวม ถึงแม้จะมียอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นแต่ ณ ราคานี้เป็นการรวมความคาดหวังของรายได้อนาคตไว้เยอะแล้วหรือเรียกว่า price in การลงทุนใน ajd ณ เวลานี้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงและมีความไม่แน่นอนในโปรเจ็คอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะทำรายได้หรือกำไรให้กับบริษัทได้แค่ไหนครับ ราคา ณ ปัจจุบันเมื่อเทียบกับรายได้หลักปัจจุบันรวมถึงดูการเติบโตของธุรกิจหลัก ก็ดูเหมือนว่าจะแพงเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนครับ
วันนี้ขอจบเบาๆแบบนี้กันก่อน ใครสนใจยังไงก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะครับ
#สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น #วิเคราะห์หุ้น #AJD