เดาเก่ง วิเคราะห์ได้
เดาเก่ง วิเคราะห์ได้
เพื่อน ๆ ครับ เราเชื่อว่าถ้าเพื่อนคนไหนที่ติดตามอ่านบทความของเรามานาน ๆ คงจะรู้สึกได้เองว่าเราไม่ค่อยเชื่อมุมมองของนักวิเคราะห์ทางเทคนิคเท่าไร คือจริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีอคติต่อการวิเคราะห์แบบนั้น แต่เรามีข้อโต้แย้งอย่างรุนแรงต่อสมมติฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค กล่าวคือ แนวคิดพื้นฐานทางเทคนิคบอกว่าข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้ถูกรับรู้ไปในราคาหุ้นหมดแล้ว และด้วยเหตุนี้ราคาหุ้นจะมีแนวโน้มขึ้นหรือลงอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นฐานของหุ้น เพียงแต่วิเคราะห์แนวโน้มของราคาหุ้นและซื้อหุ้นในช่วงที่แนวโน้มราคาเปลี่ยนแปลงจากขาลงเป็นขาขึ้น และขายหุ้นเมื่อเวลาที่แนวโน้มราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงจากขาขึ้นเป็นขาลง
เราเองปฏิเสธสมมติฐานนี้อย่างรุนแรง เราไม่เชื่อว่าข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นแล้วแต่เป็นไปในทางกลับกัน เราเชื่อว่านักลงทุนส่วนมากยังไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญต่างหาก จะเห็นได้ว่าเมื่อมีการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์ของตลาด ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงอย่างรุนแรง เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ แสดงว่าจริง ๆ แล้วข้อมูลผลการดำเนินงานที่ได้ประกาศออกมานี้ ยังไม่เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
ดังนั้นเราก็เชื่อตามที่ Warren Buffet นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ได้บอกเอาไว้ ว่าไม่จำเป็นต้องไปดูสภาพตลาดหรอกว่าเมื่อไรมันจะดีเป็นกระทิง เมื่อไรมันย่ำแย่เป็นหมี แต่ให้ดูที่ตัวบริษัท ว่าเป็นกิจการที่มีความสามารถในการทำกำไรดีหรือไม่ ฐานะการเงินแข็งแกร่งขนาดไหน ราคาหุ้นเทียบกับมูลค่านั้นถูกหรือแพง เป็นข้อมูลประกอบที่สำคัญในการเลือก ซื้อหุ้น หรือขายหุ้น อย่างที่เราได้แสดงให้เพื่อน ๆ เห็นตลอดมาว่าเราเองยืนอยู่บนพื้นฐานนี้เสมอ และผลงานของเราเท่าที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าดีทีเดียว ดังนั้นเราก็ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เดินในแนวทางการลงทุนอันเดียวกับเราเองนี้ด้วยนะครับ
ที่เราเล่ามายืดยาวนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะคาดเดาอะไร ๆ ไม่ได้เลยในตลาดหุ้นนะ เราเชื่อว่าเราสามารถคาดการณ์ได้บางส่วนเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อมองถึงหุ้นรายตัว ซึ่งในบทความฉบับนี้เราจะแสดงมุมมองต่อการวิเคราะห์ธุรกิจมากกว่าการวิเคราะห์ Ratio และตัวเลขทางการเงินต่าง ๆ นะครับ มองย้อนไปในอดีต เมื่อช่วงเวลาที่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์นั้นจะเห็นได้ว่า หุ้น SCC เป็นบริษัทขนาดใหญ่ BBL ก็เป็นธนาคารขนาดใหญ่ แต่การที่ SCC ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจวัสดุก่อสร้างนั้น ก็เนื่องมาจากความโดดเด่นเหนือกว่า BBL โดยในช่วงเวลานั้น ไม่มีคู่แข่งอยู่ในธุรกิจของ SCC เลย ในประเทศไทยขณะนั้นมีโรงปูนซีเมนต์ เพียงโรงเดียว แต่ความต้องการปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการที่ประชากรของประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ซึ่งทำให้เกิดธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรตามมา นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับต่าง ๆ ยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากมาย เช่น ถนน และ เขื่อนกักเก็บน้ำ ที่มีความจำเป็นต้องให้ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุก่อสร้างหลัก ยิ่งไปกว่านั้นการที่โรงปูนซีเมนต์เป็นธุรกิจที่จะต้องใช้ความรู้เฉพาะทางในการบริหารจัดการมาก ประกอบกับเงินลงทุนเริ่มต้นที่สูง ทำให้ SCC ผูกขาดตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศไทยอยู่เป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าปูนซีเมนต์จะเป็นสินค้าที่ไม่มีความโดดเด่นในตัวเอง(Homogeneous Product) ก็ไม่มีผลกระทบต่อการผูกขาดตลาดของ SCC ซึ่งคล้าย ๆ กับการผูกขาดตลาดน้ำมันในโลกเรานี้ของกลุ่ม OPEC โดยที่น้ำมันเป็นสินค้าที่เกือบจะเหมือนกันไม่ว่าจะซื้อมาจากที่ไหนแต่การที่ OPEC ควบคุมการผลิตน้ำมันอยู่เป็นปริมาณมาก และน้ำมันเป็นสินค้าที่โลกทั้งต้องก็ต้องการใช้ ทำให้มีอำนาจผูกขาดในตัวเอง ด้วยเหตุประการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานี้ ใครก็ตามที่มองเห็นภาพธุรกิจแบบนี้เมื่อ
ช่วงแรก ๆ ของการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และซื้อ SCC ไว้ ก็จะได้กำไรประมาณ 140 เท่า ไม่นับรวมเงินปันผล ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากมายนักในขณะที่ BBL ซึ่งถือว่าเป็นธนาคารขนาดใหญ่ในเวลานั้น ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่น้อยกว่า SCCมาก เนื่องจากในช่วงนั้น BBL ไม่เคยได้ผูกขาดธุรกิจธนาคาร มีธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง ที่อยู่มาถึงทุกวันนี้และเป็นคู่แข่งที่สำคัญก็คือ SCB ซึ่งเมื่อพิจารณาธุรกิจธนาคาร ก็จะพบว่าเป็นธุรกิจที่สินค้าไม่ได้มีความแตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละธนาคารก็ค้าขายเงิน ให้กู้เงิน และรับฝากเงิน เหมือน ๆ กัน ดังนั้นเมื่อมีคู่แข่งเข้ามาในธุรกิจก็ย่อมจะมาแบ่งตลาดออกไปได้โดยง่าย ทำให้ BBL ไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระดับเดียวกับ SCC ได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในงบการเงิน
ดังนั้นเราจึงแนะนำเพื่อน ๆ ว่า ในการเลือกลงทุนในหุ้นบริษัทใด ๆ นั้น การที่เรามองเห็นภาพอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้ได้เงินปันผลเป็นแหล่งรายได้ในอนาคต จะต้องวิเคราะห์ให้ดีถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท ความมั่นคงในด้านรายได้ และสภาพของตัวธุรกิจที่บริษัทประกอบการอยู่ ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรอบคอบแล้วพบว่าบริษัทนี้มีอนาคต ก็ซื้อหุ้นตัวนั้นแล้วเก็บไว้นาน ๆ เพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่านะครับ
#หุ้น #ตลาดหุ้น #วิเคราะห์หุ้น
และเช่นเคยสำหรับผู้สนใจจะปรึกษาพอร์ตการลงทุนหรือต้องการวางแผนการลงทุนตอนนี้ทางสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้นมีบริการให้คำปรึกษาและที่สำคัญคือ ฟรี!!!!
สิ่งที่คุณจะได้รับ……..
- เป้าหมายการลงทุนและการวางแผนการออมเงิน
- จัดพอร์ตหุ้นและพอร์ตการเงินทั้งหมดให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
- ปรับพอร์ตเพื่อให้พอร์ตโตได้ 20% ต่อปี
- สามารถมีความรู้ความเข้าใจเอาไปใช้ในชีวิตได้จริง
- ที่สำคัญ “มีความสุข” กับการลงทุน
คุณสามารถติดต่อทาง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้นหรือ thaistockfocus ได้ ซึ่งตอนนี้เรามีบริการที่ปรึกษาให้คำปรึกษาการวางแผนการลงทุนและการเงินกับทุกๆท่านที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 089 103 2176 หรือที่Email: thai.stock.focus@gmail.com
สิ่งที่ท่านจะได้รับคือ
1. การปรึกษาการวางแผนการเงินและการลงทุนในแบบที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่รับได้
2. ให้ความรู้เรื่องการเงิน การบริหารเงิน การลงทุนเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของคุณ
3. แผนการเงินทั้งระยะสั้น กลาง และ ยาว และการเลือกเครื่องมือการเงินที่เหมาะสม (หุ้น กองทุน เงินฝาก ทอง และอื่นๆ)
ติดต่อสอบถามบริการได้ที่ 089 103 2176
Email: thai.stock.focus@gmail.com
Website: www.thaistockfocus.com
Line: thaistockfocus
Facebook: www.facebook.com/thaistockfocus