มาลงทุนในหุ้นปันผลเพื่ออิสระภาพทางการเงินกัน

หุ้นปันผลก็เป็นหุ้นประเภทหนึ่งที่นักลงทุนก็ให้ความสนใจกันเยอะ เพราะว่ามันมีปันผล ตรงๆตัวเลยก็คือเป็นหุ้นที่สามารถจ่ายปันผลได้ทำให้นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นที่ได้ถือหุ้นผ่านช่วงเวลาที่จะจ่ายเงินปันผลทำให้ได้รับเงินส่วนนี้ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่นโยบายการจ่ายเงินปันผลและกำไรในงวด/ปีนั้นๆ

นักลงทุนหลายๆรายนั้นสามารถมีอิสระภาพทางการเงินได้จากการได้รับปันผล และหากปันผลในแต่ละปีที่ได้มานั้นมากกว่ารายจ่ายแต่ละปีก็สามารถทำให้นักลงทุนรายนั้นมีอิสระภาพทางการเงินได้ทันที ซึ่งการมีอิสระภาพทางการเงินนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องทำงาน ซึ่งจริงอยู่ถึงแม้ไม่ต้องทำงานก็สามารถอยู่ได้สบายแต่ความหมายของอิสระภาพทางการเงินจริงๆก็คือการใช้ชีวิตได้ในแบบที่เราต้องการโดยไม่ต้องไปทำงานที่เราไม่ต้องการทำ เพราะถึงเวลานึงคุณอาจไปทำงานที่ได้ค่าจ้างน้อยแต่เป็นงานที่คุณอยากทำ คุณก็สามารถทำได้เพราะตอนนี้มีเงินเลี้ยงจากเงินปันผลแล้วก็เป็นได้

กลับมาที่หุ้นปันผลต่อ หุ้นหรือธุรกิจใดๆ จะสามารถปันผลออกมาได้ ต้องมีกำไรก่อน ถึงสามารถนำกำไรเหล่านั้นมาปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ และมากน้อยในแต่ละรอบนั้นก็ขึ้นกับจำนวนกำไรและอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผล เช่นว่า กำไรต่อหุ้นในงวด ปี 2557 นั้นอยู่ที่ 1 บาท และมีนโยบายการปันผลอยู่ที่ 50% เท่ากับว่า ในรอบนั้นอาจจะมีการจ่ายปันผลได้ที่ประมาณ 0.5 บาท และหากราคาหุ้น ณ ขณะนั้นอยู่ที่ 10 บาท เท่ากับว่า หากซื้อที่ราคานี้ก็จะได้ปันผล 0.5/10 = 5% และเราจึงเรียกว่า Yield

แต่หากเรามีหุ้นตัวนี้ที่ราคา 3 บาทซึ่งอาจจะเคยซื้อลงทุนมานานแล้วก็อาจจะได้ถึง 16.7% ซึ่งเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยแล้วจะเห็นได้ว่าเงินปันผลก้อนนี้เป็นก้อนที่ให้ผลตอบแทนได้เยอะมาก ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรหากวันนึงเราเลือกหุ้นที่ถูกตัวและเงินปันผลกับกำไรได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกำไรโต เงินปันผลก็โตตาม และเมื่อเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ ราคาเมื่อเทียบกับปันผลก็จะเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า กำดักปันผลก็มีอยู่นะครับ อย่างที่ได้บอกไป เงินปันผลที่ยั่งยืนต้องมาจากกำไรที่ยั่งยืน การที่กำไรโตขึ้นไปเรื่อยๆทำให้เงินปันผลก้อนโตขึ้นไปเรื่อยๆ หากเจอบริษัทที่กำไรต่อเนื่องและเยอะขึ้นเรื่อยๆ โตน้อยโตมากไม่เป็นไรแต่หากมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆก็จะทำให้ปันผลโตอย่างยั่งยืน แต่บางบริษัทไม่ได้เป็นแบบนั้น บางบริษัทนั้นกำไรโตพรวดๆหรือเป็นรายได้พิเศษที่โตในปีเดียว หรืออาจจะขายโปรเจ็คได้เยอะเป็นพิเศษ ปีนั้นๆเลยสามารถปันผลได้เยอะ ทีนี้พอนักลงทุนเข้ามาลงทุน เจอเงินปันผลที่เยอะมากๆ โดยไม่ได้ดูว่ามีการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอหรือไม่ก็จะทำให้หลงกลไปกับปันผลที่เยอะนั้นได้ง่ายๆ

ดังนั้นสุดท้ายและท้ายสุด ผมอยากฝากไว้ว่า หากเราเลือกหุ้นที่เติบโต มีเงินปันผลพอประมาณ และเป็นธุรกิจที่รายได้มั่นคง เงินปันผลในระยะยาวนั้นก็จะมั่นคงไปด้วย และในท้ายที่สุดเงินปันผลนี้ก็จะกลายเป็นเงินที่ทำให้เราสามารถเกษียณหรือมีอิสระภาพทางการเงินได้ไม่ยากครับ และเงินปันผลเหล่านี้เรายังสามารถนำมาเครดิตเงินปันผลคืนได้อีกด้วย

สามารถลงทะเบียนและสมัครบริการการวางแผนการลงทุนและการเงินได้ฟรี