การซื้อหุ้นคืน
การซื้อหุ้นคืน
การลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเราในปีนี้ต้องยอมรับว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากตลาดหุ้นมีการปรับลดลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ระดับสูงสุด 1,619.65 จุด ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 ปัจจุบัน ดัชนีปิดอยู่ที่ระดับ 1,365.94 จุด ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2558 ลดลงมากว่า 16 % ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนปรับลดลงมาค่อนข้างมากเช่นกัน ซึ่ง การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับลดลงมามากจึงส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนต่างๆมีการประกาศการซื้อหุ้นคืน ดังเช่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ได้มีการประกาศซื้อหุ้นคืน นักลงทุนคงสงสัยกันว่าการซื้อหุ้นคืนส่งผลต่อบริษัทและผู้ที่หุ้นอย่างไรบ้าง วันนี้จึงขออัพเดทความเข้าใจกัน
การซื้อหุ้นคืน ถือเป็นเครื่องมือในการบริหารทางการเงิน คือการที่บริษัท มีกำไรสะสม และมีสภาพคล่องและมองเห็นว่าราคาหุ้นของบริษัทมีราคาต่ำเกินความเป็นจริงจึงเข้าไปลงทุนหุ้นของบริษัทซึ่งจะได้รับอัตราผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนแบบอื่น
การซื้อหุ้นคืน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
1. ซื้อบนกระดานหลัก (Main Board) หรือเรียกง่ายๆก็คือซื้อในตลาดหลักทรัพย์ฯ การซื้อในตลาดหลักทรัพย์ จะมีข้อกำหนดคือ ซื้อไม่เกิน 6 เดือน และต้องรายงานการซื้อหุ้นคืน ภายใน 9.00 น. ของวันทำการถัดจากวันซื้อ
2. เสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป (General Officer:GO) การซื้อคืนต้องไม่น้อยกว่า 10 วัน แต่ไม่เกิน 20 วัน และต้องรายงานการซื้อหุ้นคืน ภายใน 5 วันทำการถัดจากวันที่ซื้อ
ซึ่งบริษัทสามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้ ต้องพ้นกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสุดโครงการ หมายถึงวันที่ซื้อคืนได้ครบตามโครงการ ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 3 ปี
กรณีต่อผู้ถือหุ้น หุ้นที่บริษัทถืออยู่จากการซื้อหุ้นคืนจะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นและไม่มีสิทธิในการออกเสียงรับเงินปันผล ทำให้ภายหลังการซื้อหุ้นคืน บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวนลดลง ทำให้อัตราเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนมากขึ้น
กรณีต่อบริษัท หลังการซื้อหุ้นคืนจะทำให้สภาพคล่องของบริษัทลดลง แต่ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินเพราะการที่บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนหมายความว่าบริษัทมีกำไรสะสมและมีสภาพคล่องส่วนเกิน
จะเห็นว่า การซื้อหุ้นคืนสามารถส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของบริษัทให้กับนักลงทุน เพราะการที่บริษัทสามารถประกาศซื้อหุ้นคืน แสดงถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัท และเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน นอกจากนี้บริษัทสามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนมาได้ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่สิ้นสุดโครงการ ในเรื่องของราคาหุ้นการที่บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนในช่วงนั้นก็ส่งผลให้นักลงทุนก็มั่นใจได้ว่า บริษัทมองว่าราคาหุ้นต่ำเกินกว่าความจริงเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน อย่างไรก็ตามในอดีตมีบางบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์แล้วหลังจากสิ้นสุดโครงการไม่สามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้หมดเพราะสภาวะตลาดซบเซาราคาหุ้นที่บริษัทซื้อมาสูงกว่าราคาในตลาด ทำให้บริษัทต้องลดทุนจดทะเบียนลง แสดงให้เห็นว่า การซื้อหุ้นคืนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนก็จริง แต่นักลงทุนก็ต้องดูส่วนประกอบหลายๆอย่างของบริษัทนั้นๆ ในการตัดสินใจลงทุนด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนนะคะขอให้โชคดีในการลงทุนค่ะ
Have a good day
Miilon Dollas Girl
ที่มา: ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และเช่นเคย หากสนใจการเรียนหุ้นแบบส่วนตัวหรือแบบกลุ่มก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ line @: @thaistockfocus (ใส่ตัว @ ด้วยนะครับ) หรือที่ 097 231 9514 ครับ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.thaistockfocus.com/p/stock-class.html