แมงเม่าบินเข้ากองไฟ
แมงเม่าบินเข้ากองไฟ
เพื่อน ๆ รู้จัก “ไฟ” กันดีใช่มั๊ยครับ รู้ใช่มั๊ยว่ามันร้อน แล้วรู้ใช่มั๊ยว่าถ้าไปเล่นกับไฟ แล้วมันจะเป็นยังไง มันร้อนก็จริงอยู่ครับ แต่ถ้าไม่โดนมันลวกก็ไม่เป็นไรนี่นา แล้วตัวอะไรชอบเล่นกับไฟอีกล่ะ อืมรู้จักแมลงเม่า ใช่มั๊ย ? มันน่ะเป็นตัวชอบเล่นกับไฟเลยแหละ แล้วก็มีบ่อย ๆ ที่แมลงเม่า บินเข้ากองไฟ แล้วก็โดนย่างสุกไป แต่ความจริงอีกข้างหนึ่งก็คือว่า มีแมลงเม่าบางส่วน (ส่วนน้อยนะ) เล่นกับไฟอย่างสนุกสนาน แล้วก็บินจากไปโดยที่ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย เขียนมาตั้งนานจะบอกอะไรเนี่ย
คือว่า การที่คนเรา “เล่นหุ้น” บางครั้งมันก็เหมือนกับแมลงเม่า ที่บินเข้ามาเล่นกับกองไฟแหละ ในบางครั้ง นักลงทุนรายใหญ่ ที่มีลักษณะเป็น “คนทำราคา” ก็จะจุดกองไฟขึ้น โดยการปล่อยข่าวว่าหุ้นบางตัวจะวิ่งไปเท่านั้นเท่านี้ โดยหุ้นดังกล่าวไม่ได้มีพื้นฐานกิจการดี ฐานะการเงินและผลการกำเนินงานไม่ได้ Supportราคาเป้าหมาย วิธีการโดยทั่วไปก็คือ สร้าง Volume การซื้อขายให้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ บางครั้งมีการทำรายการ Big Lot เพื่อสร้างข่าว และ เรียกความสนใจจากแมลงเม่าอีกด้วย โดยทั่วไปการทำ Volume ให้โป่งขึ้นมาผิดปกตินั้น จะเป็นช่วงที่คนทำเกมได้เก็บหุ้นไว้ในครอบครองจำนวนมากพอสมควรแล้ว
และต่อจากนั้น จะมีการลากราคากันระยะหนึ่ง ซึ่งถือเป็นช่วงที่ไฟได้โหมกระพืออย่างหนัก แล้วพวกแมลงเม่าก็จะบินกันว่อนในช่วงนี้แหละ จากนั้นโดยทั่วไปแล้วทาง SEC ก็จะเริ่มจับตาดู (ไม่รู้ว่าทำไม SEC ถึงรู้ช้าจัง) แล้วก็ออกมาตรการสกัดกั้นการทำราคา โดยทั่วไปก็เป็นการห้าม Net Settlement และ ห้ามใช้ Margin ซึ่งเป็นอาวุธหลักที่ SEC ใช้ได้ผลเสมอมา จากนั้นหุ้นดังกล่าวอาจมีราคาเพิ่มขึ้นได้อีกบ้างเล็กน้อย แล้วก็ถึงเวลาดับไฟ แต่ก่อนที่ไฟจะดับ จะต้องมีแมลงเม่าจำนวนมาก ถูกไฟคลอกในจังหวะนี้
กล่าวคือ เมื่อผู้กำหนดเกมจะทิ้งหุ้น พวกเขาจะต้องสร้าง Volume ขึ้นมาให้มาก เพื่อที่จะได้สามารถขายหุ้นที่เขาได้รวบรวมไว้ ซึ่งจะมีเป็นจำนวนมาก ให้หมดให้ได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องเกือบหมด คราวนี้พวกแมลงเม่า ที่เข้าไปซื้อในช่วงที่ไฟโหมนี่แหละ ก็จะต้องกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี ที่จะทำให้ไฟกองนี้ลุกไหม้อย่างรุนแรงต่อไปได้อีกระยะนึง บางทีก็แค่วันเดียวหรือสองวัน พวกที่ทำเกมก็สามารถขายหุ้นได้หมด (ที่บริษัท Broker เค้าจะเรียกกันว่า ออกของ)หลังจากทำราคามานาน บางทีเป็นเดือน หุ้นที่เคยมีสภาพคล่องสูง ๆ ซื้อขายกันวันละเป็นหลายสิบล้านหุ้น ก็มอดดับ กลายเป็นมีการซื้อขายบางตา บางทีวันนึงไม่ถึงล้านหุ้น และราคาก็หล่นลงมาบางตัว จาก 8 บาท เหลือไม่ถึง 0.50 บาท ก็มี
แน่นอนว่าจะมีแมลงเม่าบางตัวไหวตัวทัน แล้วก็บินหนีไปได้ก่อน เพื่อน ๆ ก็เลือกเอาแล้วกันว่า จะทดลองเป็น “แมลงเม่า” ดูเผื่อว่าจะได้หนีได้ทันบ้าง หรือว่าจะไม่เข้าไปเล่นกับไฟซะเลย จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกไฟคลอกตาย ตอนที่ Game Over ตอนนี้เท่านั้นแหละที่เพื่อน ๆ จะได้รู้ว่า เงินที่เอามาลงทุน มันโดนไฟคลอกไปบ้างหรือไม่ โดนไปเท่าไร ส่วนเพื่อน ๆ ที่คิดว่าต่อไปจะเป็นคนทำเกมบ้าง เราขอร้องว่าอย่าเลยครับ ทำเกมก็ไม่ง่ายนะ น้ำมันต้องพร้อม ฟืนต้องมาก ไฟต้องมี ใจต้องกล้า แล้วก็ต้องมีโชคช่วยอีกบ้างเสี่ยงต่อการถูกจับ แล้วก็เป็นบาปกรรมติดตัวต่อไปในชีวิตข้างหน้าอีกด้วยนะครับ ถ้าจุดไฟไม่เป็นไฟอาจจะลวกตัวเองซะเกรียมก่อนที่จะมีแมลงเม่ามาให้ลวกด้วยซ้ำไป
เพื่อน ๆ ครับ เกมแบบนี้มีลักษณะเป็น Zero Sum Game คือ มีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย เพราะหุ้นลักษณะนี้ ไม่ได้มีพื้นฐานกิจการที่ดีรองรับ ดังนั้นเมื่อจบเกม ราคาของหุ้นพวกนี้จะปรับตัวเข้าหาที่ ๆ มันควรจะเป็น ซึ่งทำให้คนที่ไปซื้อที่ราคาสูงเกินจริง (ติดยอดดอย) ต้องประสบกับการขาดทุนอย่างมหาศาล แล้วคนที่ขายออกมาในราคานั้น ทำกำไรได้อย่างมโหฬาร แต่ถ้าเป็นในกรณีของหุ้นที่พื้นฐานของกิจการดี กำไร และฐานะการเงินสามารถ Support ราคาหุ้นนั้นได้ล่ะก็ หุ้นก็จะขึ้นไปเรื่อย ไม่ทำให้ใครขาดทุนถ้าถือไว้ในระยะเวลาที่ยาวนานพอ หุ้นพวกนี้แหละ ที่เราสนับสนุนให้เพื่อน ๆ ไปขุด ไปหา ไปร่อน มาซื้อลงทุนกัน เวลากำไรก็กำไรด้วยกัน ไม่ต้องมากินเลือด กินเนื้อกันเอง เพื่อทำให้คนหนึ่งได้กำไรแล้วอีกคนขาดทุน
ถ้าเพื่อน ๆ ศึกษาหลักการลงทุนมาอย่างดี พอจะอ่านหุ้นออกได้บ้างแล้วล่ะก็ เพื่อน ๆ จะพบว่าหุ้นที่ถูกจุดไฟขึ้นมานั้น โดยมากมักจะมีราคาแพงเกินควรเสมอ ซึ่งถ้าใช้หลักการที่เราเสนอคือว่า “เงินต้นต้องไม่สูญกำไรต้องไม่หาย” แล้วล่ะก็ เราว่าก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับมันหรอก หาหุ้นเอง กำไรเองดีกว่านะครับ
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น
#สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น #แมงเม่า #การลงทุนในหุ้น
——————————————————————————
ติดตามอ่านเรื่องดีๆเกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนต่อได้ที่ สิ่งที่เล็กๆที่เรียกว่าหุ้น ได้ที่นี่เลยครับ
