7 ข้อคิดการลงทุนที่จะเปลี่ยนการลงทุนของคุณไปอย่างสิ้นเชิง
7 ข้อคิดการลงทุนที่จะเปลี่ยนการลงทุนของคุณไปอย่างสิ้นเชิง
หากมองถึงการลงทุนแบบ value investment แล้วหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อ Warren Buffet, Philip Fisher, Charlie Munger หรือ Seth Klarman มากันบ้าง วันนี้มาดูหลักการง่ายๆของพวกเค้าที่จะทำให้การลงทุนของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและจะเข้าใจการลงทุนในหุ้นคุณค่าแบบลึกซึ้ง (value investment)
1. ในตลาดหุ้นคุณ ไม่ต้องฉลาดกว่าใครเค้าหรอก แค่มีวินัยการลงทุนมากกว่าคนอื่นก็เพียงพอแล้ว “Warren Buffet”
วอเรน บัฟเฟตนั้นเป็นต้นแบบของการลงทุนที่มีวินัยอย่างสูงมากๆและเป็นจุดเด่นของเค้ามาโดยตลอดซึ่งสไลต์ของบัฟเฟตนั้นจะกล้าเมื่อคนอื่นกลัวและกลัวเมื่อคนอื่นกล้า คำๆนี้ไม่ใช่คำเล่นๆที่เอามาพูดกันสนุกๆ แต่บัฟเฟตนั้นทำจริงๆ เค้าจะรอจังหวะจนตลาดเป็นใจเค้าถึงจะกระโจนเข้าไปในตลาดเพื่อช้อปปิ้งหุ้นดีๆราคาถูก และในทางกลับกันเมื่อตลาดหุ้นบูมสุดขีดเค้าก็เรียนรู้ที่จะนั่งทับมือเอาไว้นิ่งๆเพราะไม่ใช่เป็นเวลาที่จะหาของดีๆราคาถูกได้
2. หุ้นดีๆถึงแม้จะต้องใช้เวลานานแต่วันนึงตลาดจะปรับราคาหุ้นไปให้เหมาะสมกับมันในที่สุด เช่นเดียวกันกับเวลาที่ราคาหุ้นมันบ้าคลั่งเกินพื้นฐานของมัน ตลาดก็ปรับราคาให้เหมาะสมกับมันเช่นเดียวกัน “Philip Fisher”
ฟิชเชอร์นั้นจะเรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจของวอเรน บัฟเฟตในการลงทุนก็ว่าได้ซึ่งในการลงทุนซึ่งเรียกได้ว่าหลายๆสิ่งที่ฟิชเชอร์นั้นทำไว้ บัฟเฟตเองก็เอามาใช้ในกลยุทธ์การลงทุนของเขาด้วยเช่นกัน
3. ตลาดหุ้นมันตลกดี เมื่อนักลงทุนทุกๆคนรู้ราคาของหุ้น แต่น้อยคนมากที่รู้ว่าหุ้นนั้นมีมูลค่าจริงๆเท่าไร “Philip Fisher” หากเราเอาราคามาเทียบกัน หุ้น 1000 บาทอาจจะแพงกว่าหุ้น 2 บาท แต่จริงๆแล้วเมื่อเอาคุณภาพกับคุณค่ามาเทียบด้วยกันแล้วบางทีหุ้น 1000 บาทนั้นอาจจะถูกมากกว่าหุ้น 2 บาทก็เป็นได้
4. ความเสี่ยงไม่ได้ถูกฝังตัวอยู่การลงทุนซะหน่อย ราคาต่างหากที่ทำให้เสี่ยง “Seth Klarman”
ลองคิดดูเล่นๆนะว่าหากวันนี้การหุ้นกับเพื่อนเพื่อเปิดร้านอาหารคนละ 1 ล้านบาทซึ่งคุณเองก็ไม่รู้หัวก้อยว่าร้านจะเปิดแล้วเป็นยังไง เงิน 1 ล้านบาทคุณจะหมดไปมั้ยคุณอาจจะรู้สึกกังวลและรู้สึกว่าการลงทุนนี้เสี่ยงเหลือเกิน แต่หากลองคุณลงทุนแค่ 1 พันบาทดูสิ คุณอาจคิดว่ามันเสี่ยงน้อยกว่าก็ได้ เพราะจริงๆแล้วเงิน 1 พันที่ลงไปนั้น ถึงเสียหายไปก็ไม่เป็นอะไรมากแต่หากมันสำเร็จขึ้นมาทำเงินให้คุณได้เป็นล้านๆล่ะ
5. ธุรกิจที่ดีมากๆในราคาที่เหมาะสมย่อมจะดีกว่าธุรกิจกลางๆในราคาที่ดีมากๆ “Charlie Munger”
ชาร์ลี มังเจอร์ซึ่งเป็นคู่หูคนสำคัญของวอเรน บัฟเฟตุที่ Berkshire Hathaway ได้บอกเรื่องนี้กับบัฟเฟตว่าการเลือกหุ้นที่ถูกมากๆแต่ด้อยคุณภาพ อาจจะไม่ได้ทำให้การลงทุนนั้นดีกว่าการที่เลือกหุ้นดีๆในราคาที่เหมาะสม เพราะว่าธุรกิจที่ดีมากๆธุรกิจนึงย่อมสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างสูงได้และในระยะยาวจะทำให้ชนะคู่แข่งได้ดีในตลาดดังนั้นการยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อธุรกิจที่ดีมากๆเหล่านี้ย่อมเป็นการลงทุนที่ดีกว่ามากๆ
6. หากคุณแค่มองหาส่วนต่างของราคาในหุ้นแต่ละตัวคุณจะได้เป็นแค่เล่นหุ้น แต่หากคุณสามารถเข้าใจลึกลงไปในบริษัทนั้นๆในหุ้นนั้นๆได้และเข้าใจความต่างของราคากับมูลค่าว่าเกิดอะไรขึ้นคุณคือนักลงทุน “Charlie Munger”
ในการมองหุ้นหากมองแต่ราคาคุณจะเป็นนักเก็งกำไรและไม่รู้อะไรลึกเกี่ยวกับธุรกิจเลย แต่หากคุณลองมองให้ลึกลงไปทำความเข้าใจ ศึกษาหาข้อมูล คุณจะรู้ว่าราคาที่มันเป็นอยู่นั้น เหมาะสมกับมูลค่าของมันแค่ไหนและเมื่อนั้นคุณจะเห็นโอกาสการทำกำไรในหุ้นได้เป็นกอบเป็นกำ
7. หากคุณอยากล่าช้างป่า 8 เท้าที่วิ่งเร็วมากซึ่งนานๆทีจะโผล่มาให้เห็นซักตัว คุณต้องโหลดกระสุนเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอ “Warren Buffet”
หากคุณเจอโอกาสดีๆมารออยู่ต่อหน้าแต่คุณไม่มีเงินสดติดตัวเลยสำหรับการลงทุนนั้นๆ ต่อให้การลงทุนนั้นดีมากๆแค่ไหนในอนาคตคุณก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ สิ่งที่ควรทำคือคุณควรจะมีเงินสดติดตัวไว้จำนวนนึงหรือใกล้แหล่งเงินทุนที่ดีเพราะเมื่อถึงโอกาสคุณก็สามารถเอาเงินที่มีอยู่นั้นซื้อหุ้นดีๆในราคาแบบลดกระหน่ำได้เลยทันที เหมือนกับว่าคุณได้เตรียมกระสุนไว้พร้อมตลอดในการล่าช้างหายากนั่นไงล่ะ