มูลค่าหุ้นคืออะไร
มูลค่าหุ้นคืออะไร
เพื่อน ๆ ครับ การที่เราจะสามารถบอกได้ว่าหุ้นตัวไหนมีราคาถูกหรือแพงนั้น ปัจจัยที่สำคัญมากประการหนึ่งคือ เราจะต้องรู้ให้ได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นเป็นเท่าไร ซึ่ง Warren Buffet ได้ใช้คำในภาษาอังกฤษว่า Intrinsic Value ครับ ถ้าเป็นสมัยก่อนจริง ๆ คือในช่วงที่ธุรกิจการค้าต่าง ๆ ต้องพึ่งพาสินค้าทุนที่จับต้องได้ เช่น ที่ดิน โรงงานเครื่องจักร เป็นสำคัญล่ะก็ การหา Intrinsic Value นั้น ก็อาจจะมีพื้นฐานมาจากมูลค่าของสินทรัพย์ต่าง ๆที่ได้กล่าวมานี้เป็นส่วนสำคัญ อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์นั้นแม้ว่าจะหักกลบกับส่วนที่เป็นหนี้สินของกิจการไปแล้วก็จะแสดงมูลค่าของกิจการในแง่ของฐานะการเงินเท่านั้น แต่ในส่วนที่เราคิดว่าสำคัญกว่า นั่นก็คือผลประกอบการนั้น ไม่สามารถจะดูได้จากวิธีการนี้ ดังนั้นเราจะนำเสนอเรื่องการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของกิจการนะครับ เราเชื่อแน่ว่าเพื่อน ๆ นักลงทุนของเราจะได้รับประโยชน์จากการประเมินมูลค่าที่เรานำเสนอนี้ และนำไปประกอบการพิจารณาลงทุนได้อย่างแน่นอน
หุ้นของบริษัทใดก็ตามนะครับเพื่อน ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามแต่ถ้าผลการดำเนินงานไม่ดี กำไรน้อย หรือว่าขาดทุน ก็เชื่อได้ว่าหุ้นนั้นมีแนวโน้มที่ราคาจะไม่ขึ้น และโอกาสที่เราจะทำกำไรจาก Capital Gain ได้ก็จะมีน้อย ต่างกับหุ้นของบริษัทใดก็ตามที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นกำไรเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะวิ่งตามผลประกอบการขึ้นไป และย่อมทำให้เรามีโอกาสที่จะทำกำไรจาก Capital Gain ได้มาก ดังนั้นสำหรับเราแล้ว ผลการดำเนินงานย่อมมีส่วนสำคัญในการเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากกว่าฐานะการเงิน ซึ่งโดยนัยนี้หมายความว่าเราจะคัดเลือกหาหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น และเชื่อได้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในอัตราที่สูงอยู่ต่อไป เพื่อลงทุน
ซึ่งมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นเหล่านี้ ในบางครั้งก็สูงเกินกว่า Book Value อยู่มากอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่า ROA ของบริษัทลักษณะนี้สูงมาก จนทำให้ Asset จำนวนน้อยสามารถสร้างรายได้จำนวนมากได้ เราจะลองยกตัวอย่างให้เพื่อน ๆ ดูนะครับ ก็ลองดูอย่าง Hotmail, Google หรือ Microsoftก็ได้ กิจการลักษณะนี้มีการลงทุนในสินทรัพย์น้อย แต่สร้างรายได้อย่างมหาศาล ถ้าถามว่าอะไรคือสินทรัพย์ที่มีค่ามากพอจะทำให้กิจการเหล่านี้ทำเงินได้อย่างมากมาย ก็คงตอบคำเดียวได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า Brand ไงครับที่เป็นพลังขับเคลื่อนของธุรกิจในโลกสมัยใหม่และในบางครั้งก็รวมถึงการที่กิจการนั้นสามารถมีฐานลูกค้าที่แน่นอนเอาไว้ด้วยเช่นกัน
ในบางครั้งมูลค่าที่แท้จริงก็จะมีหลายมุมมอง โดยถ้าเรามองธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์แล้วจะเห็นได้ว่าหนังสือพิมพ์ที่เป็นแบบบอกรับสมาชิก ที่มีสมาชิกอยู่มาก ๆ ย่อมจะมี Intrinsic Value สูงมาก และในกรณีเดียวกันนี้ เราก็อาจบอกได้อีกว่ากิจการให้บริการ E – Mail ที่มีสมาชิกมาก ๆ เช่น Yahoo หรือHotmail ก็ย่อมจะมีมูลค่าที่แท้จริงสูงมากเช่นเดียวกัน เราเองเชื่อว่ายิ่งโลกเราพัฒนาไปมากเท่าไรการหาIntrinsic Value ก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นเราอยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ว่าขอให้เปิดหูเปิดตาให้กว้างไกล อย่าเป็นคนรู้แต่เพียงแค่ในตำรา แต่จงแสวงหาความรู้อันแท้จริงในโลกกว้าง เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้เป็นนักลงทุนที่ดี ที่สามารถมองเห็นอนาคตได้ก่อนคนอื่น อย่างที่เราได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า เราเองจะเน้นลงทุนในหุ้นที่ Growth สูง ๆ ซึ่งปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จก็คือ เราจะต้องมองอนาคตให้ออก เพราะอนาคตจะเป็นตัวตัดสินว่าการลงทุนของเราจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ การหา Intrinsic Value ที่เราได้เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการมองผลประกอบการในอนาคตของบริษัท ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดราคาที่เหมาะสมตามมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้นถ้าเราประเมินได้ใกล้เคียงความเป็นจริง ก็เห็นได้ชัดว่าเราจะสามารถกำหนดราคาซื้อที่เราคิดว่าเหมาะสมได้ และกำหนดราคาขายที่สามารถทำกำไรได้สูงได้ จึงทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนของเราต่ำ และผลตอบแทนที่เราจะคาดหวังได้ก็สูง โอกาสที่การลงทุนของเราจะประสบความสำเร็จก็มีมาก
เราขอให้เพื่อน ๆ ของเราอ่านงบการเงินให้ออก และมองให้ทะลุงบการเงิน ด้วยความรู้และความสามารถที่มีอยู่ ประกอบกับความพยายามตามสมควร เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะสามารถประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นได้ เราจะเรียกการวิเคราะห์แบบนี้ว่าการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ และเรียกการวิเคราะห์โดยอาศัยงบการเงินและตัวเลข Ratio ต่าง ๆ ว่าการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เราขอให้เพื่อนนักลงทุนของเราใช้การวิเคราะห์ทั้งสองอย่างผสมผสานกัน เพื่อจะได้ประเมินมูลค่าของหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ
ขอให้เพื่อน ๆ หาหุ้นที่มี Intrinsic Value สูง ๆ ในราคาไม่แพงได้นะครับ
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าหุ้น
#การลงทุนในหุ้น #มูลค่าหุ้น #intrinsic value